เชื่อไหมว่า มีโรคแปลก ๆ เยอะมากที่ได้ยินชื่อแล้วไม่อยากจะเชื่อว่ามีอยู่จริงในโลกใบนี้
โรคแปลก ๆ หลายชนิดที่เกิดขึ้นมากจากความกลัว หรืออาการหวาดวิตกมากในจิตใจจนส่งผลต่อปฏิกิริยาทางร่างกาย ซึ่งความกลัวในโลกใบนี้มีสารพัด หลายคนที่กลัวมากจนทำให้มีอาการป่วยของโรคนั้น ๆ แตกต่างกันไป โดยโรคแปลก ๆ เช่น โรคกลัวโดนด่า โรคกลัวการถูกตำหนิ โรคกลัวแมลง โรคกลัวถูกลืม โรคกลัวความเร็ว โรคกลัวการถูกมอง โรคนอนคนเดียวไม่ได้ หรือ โรคกลัวความร่ำรวย!! เดี๋ยวนะ ใครกันนะที่กลัวรวย กลัวมีเงินมีทอง เขามีแต่กลัวจน แต่โรคกลัวความร่ำรวย มีด้วยหรือ???
ใครอยากเป็นเศรษฐี? คนส่วนใหญ่จะยกมือขึ้นและตอบว่า ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ เราคุ้นเคยกันมาอย่างนั้นใช่ไหมคะ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งหากได้ยินคำถามนี้ จะรีบหดแขน หนีบมือไว้ ปากสั่น หน้าชา และอาจรีบเดินหนีอย่างไว เพราะไม่สบายใจและหวาดกลัวความร่ำรวย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะโรคนี้มีอยู่จริง และมีผู้ป่วยหรือผู้เข้าข่ายของโรคนี้จำนวนไม่น้อยเลยล่ะ
โรคกลัวความร่ำรวยนี้น่ากลัวตรงไหน ทำไมจึงถูกจัดให้เป็นโรคได้ คนส่วนใหญ่ย่อมจะนึกไม่ออก เพราะเราจะเข้าใจว่าการมีเงินมีทองจะช่วยตอบสนองความต้องการทางวัตถุและสิ่งอื่น ๆ ให้เราได้มากมาย แล้วอาการของโรคนี้เป็นยังไงและมีผลเสียอย่างไร เราต้องไปทำความรู้จักกับโรคแปลกที่ว่านี้กันดีกว่า
Plutophobia โรคกลัวความมั่งคั่งร่ำรวย
หากแยกคำ Plutophobia จะได้คำว่า Pluto คือ ชื่อของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยและมีอำนาจของชาวกรีก ส่วน phobia คือ ความกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างสุดขั้ว เมื่อมัดรวมเอาสองคำนี้เข้าด้วยกัน ทำให้ความหมายของ Plutophobia คือ โรคกลัวความมั่งคั่งร่ำรวย นั่นเอง
สาเหตุโรค Plutophobia เกิดจากอะไร
ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดถึงสาเหตุของโรค Plutophobia เกิดจากอะไรกันแน่ แต่มีการสันนิษฐานในทางจิตวิทยาว่ามีความเป็นไปได้ว่า ผู้ป่วยโรค Plutophobia หรือคนที่มีอาการกลัวความร่ำรวย เนื่องจากอดีตที่เลวร้ายเกี่ยวกับเงินทองฝังใจ ซึ่งอาจเติบโตในฐานะร่ำรวยแต่มีเบื้องหลังอันโหดร้ายจนทำให้รู้สึกต่อต้้าน ขยะแขยง หรือรู้สึกผิดบาปอยู่ในใจ บางคนเกิดและเติบโตในบ้านรวยแต่กลับไม่เคยมีความสุขตั้งแต่จำความได้ หรือเติบโตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ผลประโยชน์ของเงินทองจนไม่สามารถไว้วางใจใครได้เลย และกลัวว่าคนที่เข้าหาตนเพียงเพราะผลประโยชน์เท่านั้น
Plutophobia มีอาการอย่างไร
หลายคนที่เป็นโรค Plutophobia โดยไม่รู้ตัว เราลองมาดูกันหน่อยว่าอาการของคนกลัวความรวยเป็นอย่างไรกันบ้าง
- รู้สึกกังวล อึดอัด ไม่สบายใจ เมื่ออยู่ท่ามกลางคนรวย
- รู้สึกเครียดและกังวลทุกครั้งที่นึกถึงความร่ำรวย
- พยายามหาทางทำลายความร่ำรวยหรือฐานความมั่นคงของตนเอง
- รู้สึกผิดหรือละอายใจในความร่ำรวยของตน
- เลือกทำแต่งานที่ได้ผลตอบแทนน้อย เงินเดือนต่ำ
- ไม่ไว้ใจหรือต่อต้านคนรวย
- อคติและมีทัศคติทางลบต่อคนรวย
- ไมสนใจความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- หวั่นวิตกกลัวคนเข้าหาเพียงเพราะความร่ำรวยของตน
- เชื่อในหลักศีลธรรมมากกว่าความร่ำรวยเงินทอง
ทำไมโรค Plutophobia ถึงน่ากลัว
- คนที่กลัวความร่ำรวยจะมีนิสัยเอื่อยเฉื่อยเพราะไม่มีเป้าหมายที่จะหาเงิน
- ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เพราะไม่มีแรงจูงใจในการเก็บสะสมทรัพย์ หากเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ร่ำรวยอยู่แล้ว แต่กลับเป็นโรคนี้อีก ทำให้ไม่มีการเก็บสะสมเงินไว้ใช้ยามจำเป็น เมื่อเดือดร้อน เจ็บป่วย มีเหตุฉุกเฉิน ไม่มีเงินสำรอง หาหยิบยืมใครไม่ได้ ย่อมจะลำบากมากแน่นอน
- มีอคติและทัศนคติทางลบต่อคนมีเงินหรือร่ำรวย ทำให้มองคนในแง่ลบ แม้แต่การที่คนรวยแบ่งเงินบริจาค สร้างกุศล ให้ทาน มอบให้มูลนิธิ ก็จะถูกมองในแง่ลบว่าสร้างภาพ หลอกลวง เป็นต้น
Plutophobia รักษาได้ไหม
วิธีการรักษาโรค Plutophobia สามารถทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของผู้ป่วย เช่น
- รักษาด้วยยา ส่วนใหญ่วิธีแรก ๆ ในการรักษาผู้ป่วยโรคนี้ แพทย์จะให้กลุ่มยาแก้วิตกกังวล ยาคลายเครียด หรือ ยานอนหลับ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้ผ่อนความกังวล และช่วยบรรเทาความกลัว ซึ่งการรักษาด้วยยานี้จะค่อนข้างใช้เวลา และมีการปรับปริมาณหรือตัวยาไปเรื่อย ๆ จนกว่าแพทย์จะเล็งเห็นถึงจุดที่เหมาะสมในผู้ป่วยเป็นรายบุคคล
- รักษาด้วยจิตบำบัด วิธีนี้จะใช้หลังจากที่เห็นว่าใช้ยาอย่างเดียวแล้วไม่ได้ผล แพทย์จะให้ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดกับจิตแพทย์ เพื่อทำการรักษาควบคู่ไปกับการใช้ยา โดยจะมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้คำแนะนำ และชี้แนะแนวทาง
- การเผชิญหน้ากับสิ่งหวาดกลัว เป็นวิธีการรักษาแบบพุ่งชนกับต้นเหตุ แบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป โดยนักจิตวิทยาและจิตแพทย์จะหาวิธีและปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยได้เผชิญกับต้นตอปัญหาและรับรู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว จนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกเลิกกลัวอีกต่อไป
ถึงแม้ว่าโรค Plutophobia จะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างและคนอื่น ๆ มากนัก แต่นับว่าเป็นทัศนคติและมุมมองความคิดด้านลบ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้ป่วย จนอาจก่อให้เกิดโรคจิตเวชร้ายแรงอื่น ๆ ตามมาได้ อีกทั้งอาจทำให้เสียโอกาสดี ๆ ในอนาคตได้ ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจเข้าข่ายที่จะป่วยเป็นโรค Plutophobia รีบพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยและได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อจะได้ขจัดความคิดลบ ๆ ออกไป และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุขในทุก ๆ วันดีกว่าค่ะ