By HAARP ย่อมาจาก High-frequency Active Auroral Research Program ซึ่งเรียกในภาษาไทยว่า ฮาร์ป คือ โครงการวิจัยพลังงานลำแสงออโรราจากความถี่สูง ก่อตั้งขึ้นโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1990 และมีมหาวิทยาลัยอะลาสกา (University of Alaska) เป็นผู้ดูแลตั้งแต่ปี 2014
โครงการ HAARP ทำอะไร
จุดประสงค์แรกในการก่อตั้งฮาร์ป เพื่อวิจัยผลกระทบในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ที่มีต่อระบบนำทางและการสื่อสารในการทหารและพลเรือน ทั้งระบบดาวเทียม GPS สัญญาณไร้สาย Wi-Fi รวมไปถึงการสื่อสารวิทยุและอวกาศ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ สามารถรบกวนสัญญาณวิทยุที่ถูกส่งจากโลกได้ทั้งหมด ทำให้สัญญาณวิทยุหายไปในชั้นบรรยากาศดังกล่าว จนไม่สามารถสื่อสารได้อีกต่อไป
เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ใช่เรื่องง่ายที่มนุษย์จะทำการคาดเดาหรือทำนายได้ถูกต้อง 100% ยิ่งชั้นบรรยากาศที่อยู่สูงจากพื้นผิวโลกมากขึ้นไปเท่าไร ยิ่งเพิ่มความยากต่อการศึกษาข้อมูล จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งโครงการกฮาร์ป เพื่อนักวิทยาศาสตร์จะได้ใช้ตัวแปลงสัญญาณวิทยุความถี่สูง จากเสาอากาศแบบแบ่งเฟสทั้งหมด180 เสา ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 15 เฮกตาร์ ในรัฐอะแลสกา ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไมโครเวฟพลังงานสูงสู่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ จนชั้นบรรยากาศมีความอุ่นขึ้น สร้างพายุแม่เหล็กเทียม และสภาพภูมิอากาศเลียนแบบ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยที่สามารถควบคุมได้โดยการเลื่อนโฟกัสของเสาอากาศ เพื่อใช้สำหรับทำการศึกษาและวิจัย
ทำไม HAARP จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติและหายนะ
ต่อมาได้มีการกล่าวหา HAARP คือ โครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับใช้ในการสร้างและควบคุมสภาพภูมิอากาศ ด้วยการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ขึ้นสู่บรรยากาศโลกชั้นไอโอโนสเฟียร์ ให้สะท้อนกลับมายังพื้นผิวโลกในรูปแบบพลังงาน เมื่อยิงไปยังจุดไหนบนผิวโลก จะก่อให้เกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศ รวมไปถึงลักษณะทางธรณีวิทยา โดยหากมีการสั่นสะเทือนของคลื่นดังกล่าวบนอากาศ จะทำให้ท้องฟ้าปั่นป่วนจนเกิดพายุ แต่ถ้ายิงคลื่นขึ้นฟ้าไปสู่ชั้นไอโอโนสเฟียร์เพื่อให้สะท้อนกลับตำแหน่งที่ต้องการ พลังงานจากคลื่นจะก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจนเกิดแผ่นดินไหวได้ และอีกหลายเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวโยงว่าเป็นฝืมือจากโครงการ HAARP ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกี การเกิดแสงลำแสงประหลาดเหนือท้องฟ้าที่มอสโคว์และนอร์เวย์ น้ำท่วมใหญ่ที่ประเทศจีนจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หรือการเกิดพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มแคริบเบียนในปี 2022 รวมไปถึง Heat Wave และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นทฤษฎีสมคบคิด HARRP ต้นเหตุของภัยพิบัติและหายนะที่เกิดขึ้นทั่วโลก
แม้ว่าเจสซิกา แมตธิวส์ ผู้จัดการโครงการฮาร์ป ได้ออกมาชี้แจงเพื่อหักล้างข้อกล่าวหาว่า คลื่นวิทยุในช่วงความถี่ที่ฮาร์ปส่งสัญญาณจะไม่มีการดูดซับในชั้นบรรยากาศที่สร้างสภาพภูมิอากาศโลก จึงไม่สามารถขยายสภาพอากาศให้กลายเป็พลังงานขนาดใหญ่จนสร้างภัยพิบัติได้ และไ้ดมี แอรอน ริดลีย์ ศาสตราจารย์ด้านสภาพภูมิอากาศและวิทยาศาสตร์อวกาศ ณ มหาวิทยาลัยมิชิแกน (Univercity of Michigan) และ เดวิด ไฮเซลล์ ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์อวกาศและโลก มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงเห็นด้วยว่าไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ว่า HARRP สามารถควบคุมสภาพอากาศได้
แต่การทดสอบครั้งแรกของอาวุธกัมมันตภาพรังสีและธรณีฟิสิกส์ภายใต้โครงการฮาร์ป ส่งผลให้สามารถปิดกั้นระบบการสื่อสารทางวิทยุ ปิดกั้นการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบิน จรวด และดาวเทียมอวกาศ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุขนาดใหญ่และรุนแรงในเครือข่ายไฟฟ้าและท่อส่งน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้คนจำนวนมาก
แต่เนื่องจาก HAARP เป็นระบบที่มีอิทธิพลต่อความถี่สูงในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ สามารถควบคุมการใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิได้ หรืออุณหภูมิความร้อนที่เปลี่ยนไป ผลข้างเคียงจากการทดลอง HAARP จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าการระเบิดของปรมาณูหลายพันเท่า อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การใช้งานโดยกองทัพ ซึ่งเป็นการเข้าถึงอาวุธที่มีพลานุภาพในการทำลายล้างสูงได้ และง่ายต่อการสร้างความหายนะให้แก่โลก จึงมีการเรียกร้องและประท้วงให้ยุบและปิดโครงการดังกล่าวจากประชาคมโลกหลายครั้ง แต่กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถออกมารับรองได้ว่า โครงการ HAARP ได้ปิดตัวลงตามข้อเรียกร้องหรือไม่ เพราะผลประโยชน์และอำนาจของผู้เกี่ยวข้อง ทำให้มีการปัดตกปัญหาจากโครงการฮาร์ปออกจากการพิจารณาในการอุทธรณ์ต่อสหประชาชาติและประเทศสมาชิก พยายามปิดซ่อนข้อมูลที่เกี่ยวกับฮาร์ป อีกทั้งนำเสนอต่อสาธารณะชนว่าเป็นโครงการวิจัยที่ไม่เป็นอันตราย แต่ความลับไม่มีในโลก จึงทำให้มักมีข้อมูลเล็ดลอดออกมาให้เป็นประเด็น กลายเป็นข้อโต้แย้งที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ และส่งผลให้ผู้คนจับตามอง พร้อมกับข้อกังขาว่า โครงการ HAARP คือ อาวุธภูมิอากาศที่ประเทศมหาอำนาจถือครองและเป็นเบื้องหลังของภัยพิบัติที่โลกกำลังประสบอยู่ในขณะนี้หรือไม่กันแน่