ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อาการ การรักษา การป้องกัน 

แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 มาอย่างยาวนาน และคนส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญ รวมไปถึงการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรค แต่ยังมีอีกโรคหนึ่งที่ได้คืบคลานเข้ามาไม่รู้จักพักและหยุดให้เราได้หายใจกันโล่งจมูกโล่งคอกันบ้างเลย เพราะเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบหายใจเช่นเดียวกัน แต่การป้องกันก็คล้ายกับที่เรากำลังป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 กันอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่โรคที่น่าวิตกจนเกินไป แต่ก็ไม่ควรประมาทจนไม่ระวัง นั่นก็คือ “โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่” ซึ่งโรคนี้มักจะพบมากที่สุดในกลุ่มช่วงวัยเด็กเล็กและวัยอนุบาล เรามาทำความรู้จักโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพื่อจะได้รู้เท่าทันและป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงการลดการแพร่เชื้อของโรค ไม่ให้ระบาดจนบ้านเมืองระบมอย่างที่เป็นมากันดีกว่า 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชื่ออะไร 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชื่อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A  H1N1 (เอ เอช1เอ็น1) ซึ่งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ติดต่อได้ระหว่างคนสู่คน โดยแรกเริ่มพบที่ประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ได้แพร่ไปยังอีกหลายประเทศ และล่าสุดก็พบแล้วในประเทศไทย (ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ภาษาอังกฤษคือ Influenza A H1N1 ) 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A สาเหตุเกิดจากเชื้ออะไร

เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ A (H1N1) ซึ่งเป็นเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด เกิดจากการผสมสารพันธุกรรมระหว่างเชื้อไข้หวัดใหญ่ของ คน สุกร และ นก 

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ติดต่ออย่างไร

การติดต่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช1เอ็น1 สามารถติดต่อกันได้ง่าย โดยจากคนสู่คน ซึ่งแพร่ด้วยการจามใส่โดยตรง การหายใจเอาฝอยละอองเสมหะ สารคัดหลั่ง เช่น  น้ำมูก น้ำลาย ในระยะ 1 เมตร หรือการรับเชื้อทางอ้อม ผ่านการสัมผัส การใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน รีโมท โทรศัพท์ ลูกบิดประตู ราวบันได ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ จมูก ปาก ตา ผู้ป่วยสามารถเริ่มแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนป่วย ในช่วง 3 วันแรกจะแพร่เชื้อได้มากที่สุด และมักจะมีระยะแพร่เชื้อไม่เกิน 7 วัน 

อาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์  A / ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A กี่วันหาย 

หลังจากได้รับเชื้อไวรัสประมาณ 1-3 วัน จะมีอาการใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยมีอาการ ปวดศีรษะ มีไข้ เจ็บคอ ไอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนิ้อ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือท้องเสียร่วมด้วย ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A หายเองได้โดยอาจไม่ต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งอาการจะทุเลาและหายป่วยภายใน 5-8 วัน แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรง หายใจเร็ว หายใจลำบาก หอบ เหนื่อย และอาจเสียชีวิตได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ส่วนใหญ่จะสามารถหายได้เอง ก็ไม่ควรประมาทจนไม่ระวังในการดูแลตัวเอง 

การรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช1เอ็น1 จะต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หลังจากที่แพทย์ทำการตรวจ อาจจะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส คือ ยาโอลเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) ชนิดรับประทาน หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว และได้ทานยาหลังจากเริ่มป่วยทันที หรือไม่เกิน 2 วัน อาการป่วยก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด 

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้ต่ำๆ และยังรับประทานอาหารได้ปกติ สามารถไปคลินิกเพื่อพบหมอและรับยาตามอาการ หรือขอคำแนะนำจากเภสัชกรใกล้บ้าน และดูแลรักษาตัวเองที่บ้านได้โดยอาจไม่ต้องไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A รักษาด้วยตนเองที่บ้าน โดยทำได้ดังนี้ 

  • รับประทานยาที่แพทย์สั่ง หรือยารักษาตามอาการจากเภสัชกร เช่น ยาลดไข้ ยาละลายเสมหะ วิตามิน เป็นต้น
  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ (ห้ามใช้น้ำเย็น)
  • ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้ งดดื่มน้ำเย็น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 
  • ไม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ หากแพทย์ไม่ได้สั่ง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ 

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

  • หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดหรือคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
  • กรณีที่ต้องดูแลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ผู้ดูแลและผู้ป่วยจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และผู้ดูแลจะต้องรีบทำความสะอาด ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังดูแลผู้ป่วย 
  • หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ หลังจากจับหรือสัมผัสสิ่งของต่างๆ และหลังไอ หรือจาม (เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้มือป้องปากเมื่อไอและจาม) 
  • งดการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น หลอดดูดน้ำ แก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ 
  • ใช้ช้อนกลางทุกครั้งหากจำเป็นต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น 
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง 
  • งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

การป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่ให้แพร่เชื้อ 

  • หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่นในระยะใกล้ชิด
  • มีการเว้นระยะห่างกับผู้อื่น (Social distance)
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กับผู้อื่น 
  • ใช้ทิชชู่ หรือผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและปากทุกครั้ง เมื่อไอหรือจาม เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่
  • ทิ้งทิชชูลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด หรือแยกใส่ถุงขยะติดเชื้อ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้กับพนักงานคนเก็บขยะ 
  • เมื่อป่วยหรือติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ควรหยุดงาน หรือหยุดเรียน 3-7 วัน เพื่อป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ A ระบาด